หลายคนคงเคยรู้สึกว่าโลกเราทุกวันนี้ร้อนขึ้นทุกวัน จากที่ร้อนอยู่แล้วกลับยังร้อนขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนอย่างที่ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว ในช่วงแรกที่เกิดกระแสรณรงค์ลดโลกร้อน คนส่วนใหญ่ก็เกิดความตื่นตัว กระตือรือร้นที่จะช่วยกันบรรเทาหรือแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำรงวิถีชีวิตในรูปแบบที่ทำลายโลกต่อไปแต่อย่างใด ทว่าภาวะโลกร้อนกลับยังคงอยู่และดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ นั่นอาจเป็นเพราะว่าการจะพลิกฟื้นวิถีทางของธรรมชาติ ในขณะที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง สองสิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่ดำเนินไปด้วยกันได้ไม่ง่าย
เมื่อสภาพอากาศทวีความร้อนแรงขึ้น มนุษย์ที่ดำรงชีวิตอยู่กับมันก็ย่อมต้องได้รับผลกระทบเป็นธรรมดา นั่นเป็นเพราะตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยมีการอธิบายเอาไว้ว่า มนุษย์และจักรวาลเกิดจากธาตุทั้งสี่ ซึ่งได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาประกอบรวมกันในอัตราส่วนต่างๆ และมีช่องว่างอยู่ด้วย[1] จากแนวคิดที่ว่านี้จะเห็นได้ว่า ร่างกายมนุษย์และจักรวาลภายนอกมีความเชื่อมโยงกัน หากจักรวาลหรือโลกของเราเสียสมดุล ร่างกายมนุษย์ที่ถูกเชื่อมโยงไว้กับมันย่อมต้องพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งผลกระทบดังกล่าวก็จะแสดงออกมาในรูปแบบของปัญหาสุขภาพ อย่างที่พวกเราหลายคนคาดไม่ถึงว่าแค่อากาศร้อนขึ้น นอกจากจะพาให้หงุดหงิด โมโหง่ายแล้ว โรคภัยไข้เจ็บก็กำลังถามหาอยู่ด้วย
ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายมนุษย์
จากที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าร่างกายมนุษย์ประกอบขึ้นจากธาตุสี่อย่าง คือ ธาตุดิน 20 ส่วน ธาตุน้ำ 12 ส่วน ธาตุลม 6 ส่วน และธาตุไฟ 4 ส่วน โดยอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายที่มีลักษณะอันสามารถจับต้องได้เปรียบได้กับธาตุดิน องค์ประกอบอื่น ๆ ที่มีลักษณะหนัก เย็น และชื้นก็จะเปรียบได้กับธาตุน้ำ องค์ประกอบที่มีลักษณะเบา ร้อน ชื้นพอดี และสามารถเคลื่อนไหวได้จะเปรียบได้กับธาตุไฟ ส่วนองค์ประกอบที่มีลักษณะเบา ไม่มีน้ำหนัก ไร้รูป แห้ง และเย็นเปรียบได้กับธาตุลม1 ซึ่งองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้มีกลไกการทำงานที่สอดประสานกันเป็นอย่างดี หรืออาจกล่าวได้ว่าธาตุทั้งสี่มีการทำงานร่วมกันอย่างสมดุลเป็นปกติ โดยการทำงานภายในจะสะท้อนออกมาภายนอกผ่านรูปแบบของสภาวะทางสุขภาพ การมีสุขภาพดีจึงบ่งบอกถึงการทำงานของธาตุภายในร่างกายที่สมดุลเป็นปกติ
ความสมดุลของธาตุภายในร่างกายไม่ใช่สิ่งตายตัวแต่สามารถถูกกระทบได้ง่าย ๆ จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ซึ่งเมื่อร่างกายเสียสมดุลแล้วความเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะตามมา และหากไม่มีการปรับให้ร่างกายคืนสู่สภาวะสมดุลดังเดิมตั้งแต่เนิ่น ๆ จากที่อาจมีเพียงธาตุใดธาตุหนึ่งที่สูญเสียสมดุลไปก็อาจจะกลายเป็นลุกลามไปสู่ธาตุอื่น ๆ ที่เหลือ การจะแก้ไขเยียวยาให้กลับมาดีได้เหมือนเดิมก็อาจจะทำได้ไม่ง่ายแล้ว
ในสภาวะโลกร้อนอย่างทุกวันนี้ ธาตุภายในร่างกายย่อมได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกนี้เต็ม ๆ การเสียสมดุลที่จะเกิดขึ้น ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยกล่าวว่า เป็นการที่ธาตุไฟกำเริบ1 เนื่องจากความร้อนภายนอกไปเสริมกับธาตุไฟภายในร่างกายจนทบทวีขึ้นเกินสัดส่วนปกติที่ช่วยรักษาสภาวะสมดุลของร่างกายเอาไว้ เมื่อไฟกำเริบ ธาตุน้ำก็ลดลงตาม ธาตุดินก็แห้งผาก ส่วนธาตุลมก็แปรปรวน1 ส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่ชนิดเดียว ไม่ต่างจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เราเห็นกันอยู่เลย เมื่อถึงหน้าแล้งผืนดินก็จะแตกระแหง ไร้น้ำ ไร้ลม ไร้ความชุ่มชื้น ไม่มีต้นไม้ที่สามารถเจริญงอกงามได้ แล้วร่างกายของเราที่ไม่สามารถมองเห็นสภาพภายในได้ด้วยตาเปล่าล่ะจะเป็นอย่างไร ฤดูกาลอื่นๆ นั้นยังไม่เท่าไร แต่ในฤดูร้อน แน่นอนว่าการดูแลสุขภาพร่างกายย่อมเป็นสิ่งจำเป็น
การปฏิบัติตัวที่ดีเพื่อรักษาสมดุลในหน้าร้อน
การปฏิบัติตัวในหน้าร้อนเพื่อการดูแลสุขภาพร่างกายให้ไม่เสียสมดุลจนเจ็บไข้ได้ป่วยไป ทำได้ง่าย ๆ โดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนหรืออาหารทอด แต่ควรจะเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเพื่อดับความร้อนในร่างกายและปรับสมดุลแก่ร่างกายแทน สำหรับเรื่องของการนอนหลับและการพักผ่อนเมื่อเข้าสู่หน้าร้อน ก็เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน เนื่องจากในฤดูร้อนกลางวันจะยาว กลางคืนจะสั้น ทำให้การนอนหลับของเราเป็นไปได้ยากขึ้น แตกต่างจากฤดูกาลอื่น ๆ ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ดังนั้น การงีบหลับช่วงสั้น ๆ ในตอนกลางวันก็ถือเป็นการช่วยแก้ปัญหาการพักผ่อนน้อยได้
เครื่องดื่มสมุนไพร คลายร้อน
นอกจากนี้ เวลาที่อากาศร้อนมาก ๆ หลายคนมักจะหันไปพึ่งเครื่องดื่มเย็นๆ หรือการรับประทานอะไรเย็น ๆ ซึ่งแม้จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ทันตาแต่มันกลับเป็นภัยต่อระบบย่อยอาหารของเรา ทำให้เกิดโรคกระเพาะอักเสบได้ง่าย คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้วยิ่งต้องหลีกเลี่ยง โดยในความเป็นจริงแล้วยิ่งอากาศร้อน การเลือกรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มยิ่งควรต้องเลือกชนิดที่มีคุณสมบัติหรือฤทธิ์เย็นมากกว่าที่จะเป็นความเย็นที่แสดงออกมาทางกายภาพ ซึ่งเมื่อพูดถึงอาหารเหล่านี้แล้วย่อมต้องนึกถึงสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่สามารถนำมาทำอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลาย ทั้งยังช่วยให้สุขภาพดีในสภาวะที่อากาศเลวร้ายได้อีกด้วย
พืชสมุนไพรฤทธิ์เย็นช่วยดับร้อน
พืชสมุนไพรในสภาวะโลกร้อนแบบนี้ หรือกล่าวได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรฤทธิ์เย็นช่วยดับร้อนนั้นมีมากมายให้เลือกไปสร้างสรรค์เมนูกันได้หลากหลายเมนูเลยทีเดียว อย่างเช่นแตงกวา ที่มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายและทำให้ร่างกายสดชื่น ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นเมนูคลายร้อนง่าย ๆ อย่างสลัดแตงโมแตงกวากับเฟต้าชีส ผักชนิดอื่นที่ไม่น่าเชื่อว่าสามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้ก็เช่น ผักปลาบ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยดับพิษร้อน แก้ร้อนใน คนส่วนใหญ่นิยมใช้ยอดอ่อนจิ้มน้ำพริก หรือกินเป็นผักแกล้มส้มตำ แต่ผักปลาบสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้เช่นกัน โดยการนำมาล้างให้สะอาดและปั่นให้ละเอียดจากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลหรือเกลือเล็กน้อยเพื่อรสชาติที่ดียิ่งขึ้น1
การดับร้อนจากภายในด้วยวิธีการแบบธรรมชาติเช่นนี้ ประกอบกับการปรับพฤติกรรมบางอย่างของเรา เช่น การปรับวิธีการพักผ่อน แม้จะเป็นวิธีการที่ไม่ทันใจ สู้การหลบเข้าไปอยู่ในห้องแอร์หรือการรับประทานอะไรเย็นๆ จำพวกน้ำแข็งใส บิงซู เหล่านี้ไม่ได้ ทว่าในเรื่องของผลลัพธ์ต่อสุขภาพย่อมดีกว่าและยั่งยืนกว่าอย่างแน่นอน เพราะร่างกายของคนเราล้วนประกอบด้วยธาตุที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติย่อมต้องใช้ธรรมชาติในการรักษาและดูแล
บทความโดย
พท.ว. ทยิดา ไทยถาวร
ผู้อำนวยการคลินิกการแพทย์แผนไทยวัดทินกรนิมิต
[1] สุภาภรณ์ ปิติพร. (2559). บันทึกของแผ่นดิน 9 สมุนไพร ในสภาวะ โรคร้อน. กรุงเทพ: บริษัท ปรมัตถ์การพิมพ์ จำกัด.